วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557







จ้าวเหวินหวังทรง โปรดปรานลุ่มหลงกระบี่มาก บรรดานักกระบี่ต่างหลั่งไหลมายังราชสำนักของเขา มากมายถึงกว่าสามพันคน อาคันตุกะเหล่านี้ ได้เข้าประลองกระบี่กันทั้งวันคืนต่อหน้าพระพักตร์ และมีผู้ตายและบาดเจ็บกันนับร้อยในแต่ละปี จ้าวเหวินหวังชมการ ประลองกระบี่เหล่านี้อย่างเมามัน มิรู้หน่าย เป็นเวลาถึง 3 ปี กระทั่งแคว้นจ้าวของพระองค์ค่อย ๆเสื่อมถอยลง บรรดาเจ้าเมืองอื่น ๆ ต่างฉวยโอกาสลุกฮือต่อต้าน รัชทายาทคุยทรงกลัดกลุ้ม หารือกับข้าราชบริพาร ข้าฯจะตบรางวัลเป็นทองพันก้อนแก่ผู้

สามารถโน้มน้าวกษัตริย์ ให้เลิกการประลองกระบี่ ! จวงจื่อสามารถทำได้ ข้าราชบริพารผู้หนึ่งเสนอ ดังนั้น รัชทายาทจึงได้ส่งผู้แทนพร้อมด้วยทองพันก้อนไปกำนัลแก่จวงจื่อ จวงจื่อไม่ยอมรับของกำนัลนั้น แต่ก็ได้ร่วมเดินทางมาพร้อมกับผู้แทน มาเข้าเฝ้ารัชทายาท ฝ่าบาทต้องการให้ข้าฯกระทำสิ่งใด จึงได้ส่งของกำนัลเป็นทองถึงพันก้อนมาให้ข้าฯ ? จวงจื่อถาม ข้าฯได้ยินมาว่า รัชทายาททรงกล่าว ท่านเป็นปราชญ์ผู้ปราดเปรื่อง จึงปรารถนาที่จะได้คารวะท่าน และประทานทองพันก้อนนี้ เป็นของกำนัลแด่การมาเยือนของท่าน แต่หากท่านมิรับมันไว้ ข้าฯก็ไม่อาจที่จะกล่าวอะไรอีกต่อไป จวงจื่อจึงกล่าวว่า ข้าฯ

ได้ยินมาว่ารัชทายาททรงประสงค์ไหว้วานข้าฯ ช่วยกำจัดสิ่งที่กษัตริย์ ทรงโปรดปราน หากสิ่งที่ข้าฯกล่าวออกไป ทำให้พระองค์โกรธกริ้ว ข้าฯก็หนีไม่พ้นโทษประหาร หากผลปรากฏออกมาเช่นนี้ ข้าฯจะได้นำทองพันก้อนไปใช้ได้อย่างไรหรือ ? และหากข้าฯประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวพระองค์ และฝ่าบาทก็สมพระทัย จะมีสิ่งใดในแคว้นจ้าวอันยิ่งใหญ่ ที่ท่านจะมิอาจประทานแก่ข้าฯ ? ถ้าเช่นนั้น บัดนี้ ปัญหาก็อยู่ที่ว่า...รัชทายาททรงเอ่ยขึ้น “พระบิดาของข้าฯ จะไม่ทรงพบใครทั้งสิ้น นอกจากนักกระบี่ ดีล่ะ ! ข้าฯก็มีวิทยายุทธกระบี่เช่นกัน จวงจื่อกล่าว แต่นักกระบี่ที่พระบิดาของข้าฯจะทรงให้เข้าพบนั้นจะต้องมีผมกระเซิง หนวดเคราชี้ชัน สวมหมวกห้อยต่ำลงมา ผูกด้วยเชือดหยาบ ๆ ด้านหลังของตัวเสื้อตัดสั้น จ้องมองอย่างดุดัน ไม่พูดไม่จา พระองค์ทรงโปรดคนแบบนี้ ! หากท่านจะไปเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยชุด

อย่าง ผู้คงแก่เรียนเช่นนี้ แผนการต่าง ๆ ก็จะล้มเหลวไปเสียแต่ต้น ถ้าเช่นนี้ เตรียมชุดนักกระบี่ให้ข้าฯด้วยจวงจื่อกล่าว สามวันต่อมา เขาก็แต่งชุดนักกระบี่ เข้าไปเฝ้าจ้าวเหวินหวังพร้อมด้วยกับรัชทายาท ฝ่ายกษัตริย์ทรงถือกระบี่คมแวบ รอรับอาคันตุกะ จวงจื่อเดินเข้าไปอย่างแช่มช้า มองไปที่กษัตริย์ โดยที่มิได้คุกเข่าถวายบังคม กษัตริย์ทรงตรัสถามขึ้นว่า ท่านให้รัชทายาทอุตส่าห์มาแนะนำท่านแก่ข้าฯ ท่านมีสิ่ง

ใดที่จะสั่งสอนข้าฯหรือ ? ข้าฯได้ยินมาว่าพระองค์ทรงโปรดปรานกระบี่มาก ดังนั้น จึงมาแสดงเพลงกระบี่ของข้าฯ ให้พระองค์ทอดพระเนตร เพลงกระบี่ของท่านมีความโดดเด่นอย่างไร จ้าวหวัง รับสั่งถาม เพลงกระบี่ของข้า ฯ ในทุกๆ 10 ก้าว สามารถสังหารศัตรูได้ 1 คน และสามารถร่ายรำเพลงกระบี่ไกลถึงหนึ่งพันลี้โดยที่คมมีดไม่ทื่อเลย! จ้าวหวังได้ฟังเช่นนี้ ก็รู้สึกพึงพอใจมาก ทรงอุทานขึ้นว่า ท่านคงจะมิมีศัตรูเลยในใต้หล้านี้ ! เมื่อข้าฯปะกระบี่กับคู่ต่อสู้ ก็จะแสดงจุดอ่อนของตัวเอง ให้โอกาสแก่ปฏิปักษ์ก่อน เริ่มลงมือทีหลังแต่บรรลุถึงก่อนแสดงความว่างเปล่า จู่โจมด้วยพลังแกร้วกล้า ขอข้า ฯได้แสดงวิทยายุทธ

ของข้าฯ ? กษัตริย์ตรัสว่า ท่านออกไปก่อน ไปรอที่ที่รับรองของท่าน คอยคำสั่งจากข้า ฯ เมื่อข้าฯเปิดการประลอง ก็จะเรียกท่านมา กษัตริย์ได้ใช้เวลา 7 วัน ในการทดสอบฝีมือของนักกระบี่ของพระองค์ และก็มีนักกระบี่ถึง 60 คน ได้ล้มตายและบาดเจ็บระหว่างการประลองนี้ มีเพียงห้าหรือหกคนที่รอดชีวิต และได้รับคำสั่งให้เข้าสู่สนามประลองที่นอกท้องพระโรง พระองค์ได้รับสั่งไปยังจวงจื่อ ตรัสว่า วันนี้ เราจะมาดูกันว่าท่านจะปะกระบี่กับจอมกระบี่เหล่านี้อย่างไรจวงจื่อกล่าวว่า ข้าฯกระหายรอโอกาสนี้มานานแล้ว ท่านต้องการอาวุธแบบใด?กษัตริย์ตรัสถาม กระบี่ยาวหรือกระบี่สั้น? ข้าฯพร้อมที่จะใช้อาวุธแบบใดก็ได้ทั้งสิ้น ข้าฯมีกระบี่สามเล่ม พระองค์เพียงแต่รับสั่งมาว่าต้องการให้ข้าฯใช้กระบี่เล่มไหน ข้าฯจะอธิบายเกี่ยวกับกระบี่เหล่านี้ ก่อนที่จะนำออกใช้ต่อสู้จงเผยสรรพคุณกระบี่ทั้งสามเล่มของท่านกษัตริย์รับสั่งมีกระบี่แห่งโอรสสวรรค์ กระบี่เจ้าครองเมือง และกระบี่สามานย์ กระบี่โอรสสวรรค์เป็นเช่นใดหรือ ? กษัตริย์ตรัสถาม กระบี่แห่งโอรสสวรรค์? มีกำแพงหินแห่งเยียนซีเป็นปลายกระบี่ ขุนเขาไท่ซันแห่งแคว้นฉีเป็นคมมีด แคว้นจิ้นและแคว้นเว่ยเป็นสันกระบี่ แคว้นโจวและแคว้นซ่งเป็นจรดท่าป้องกัน แคว้นหานและแคว้นเว่ยเป็นด้าม ชนเผ่าคนเถื่อนทั้งสี่ห่มหุ้มไว้ ท่ามกลางอ้อมกอดของฤดูกาลทั้งสี่ และทะเลป๋อไห่ล้อมรอบ ขุนเขานิรันดร ฉางซัน เป็นสายรัดกระชับไว้มั่น กระบี่เล่มนี้ มีองค์ประกอบทั้งห้าปกครองอยู่ เป็นผู้ตัดสินการลงโทษและการปูนบำเหน็จรางวัล ใช้การลงทัณฑ์และการตบรางวัลบัญชาชี้นำ ดำเนินไปตามพลังของอินและหยัง ผ่อนพักในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน กวัดแกว่งสู้ศึกในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเมื่อสะบัดแทงออกไปข้างหน้า ก็ไร้สิ่งใดอยู่เบื้องหน้า ไร้ผู้ใดอาจต้านทาน ตวัดชูขึ้นเบื้องสูง ก็ไร้สิ่งใดอยู่เบื้องบน ไม่มีผู้ใดอาจหลบซ่อน ฟันลงไป ก็ไร้สิ่งใด ณ.เบื้องล่าง ไม่มีผู้ใดหนีรอดไปกวัดแกว่งหมุนไปรอบ ๆ ก็ไร้สิ่งรายรอบไม่มีผู้ใดอาจเข้าใกล้ ณ.เบื้องบน ก็สามารถฝ่าหมู่ริ้วคลื่นเมฆา ณ เบื้องล่าง ก็สามารถฟันแยก

ใจกลางแผ่นดิน เมื่อใช้กระบี่เล่มนี้ เหล่าเจ้าเมืองแว่นแคว้นต่าง ๆ ทั่วหล้าล้วนล่าถอยสยบยอม นี่คือกระบี่แห่งโอรสแห่งสวรรค์จ้าวหวังถึงกับตกอยู่ในอาการงงงันอึ้ง กว่าจะตรัสขึ้นว่า แล้วกระบี่แห่งเจ้าครองเมืองล่ะ เป็นเช่นไร? กระบี่เจ้าครองเมืองนั้นหรือ? มีผู้กล้าและทรงความสามารถเป็นปลายกระบี่ มีความบริสุทธิ์และตรงไปตรงมาเป็นคมมีด มีผู้ทรงคุณความดีเป็นสันกระบี่ มีผู้จงรักภักดีและทรงปัญญาเป็นจรดท่าป้องกัน มีวีรบุรุษและอัจฉริยะภาพเป็นด้าม กระบี่เล่มนี้ก็เช่นกันเมื่อสะบัดแทงออกไปข้างหน้า ก็ไร้สิ่งใดอยู่เบื้องหน้าเมื่อตวัดชูขึ้น ก็ไร้สิ่งใดอยู่เบื้องบนเมื่อซัดลงไป ก็ไร้สิ่งใดอยู่เบื้องล่างเมื่อกวัดแกว่งไปรอบ ๆ ก็ไร้สิ่งใดอยู่รายรอบ ณ เบื้องบน ก็ได้ถือแบบอย่างตามความกลมของฟ้า ดำเนินไปตามลำแสงแห่งดวงตะวัน จันทรา และดวงดารา พื่อที่จะประสานกลมกลืนกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ณ เบื้องล่าง ก็ได้ถือแบบอย่างสี่เหลี่ยมของแผ่นดิน ดำเนินไปตามฤดูกาลทั้งสี่ ณ กึ่งกลาง ก็ได้บรรสานกลมกลืนกับจิตใจของประชาชน และบันดาลความสงบศานติแก่ทิศทั้งสี่ กระบี่เล่มนี้ เมื่อนำออกใช้ ก็แผ่พลานุภาพอัน ดุดันดั่งสายฟ้าฟาด ไม่มีผู้ใดจากชายแดนทั้งสี่ของแคว้น ที่จะไม่ยอมหมอบก้มมอบตัวอยู่ใต้อำนาจ ไม่มีผู้ใดที่อาจละความสนใจ และไม่เชื่อฟังคำบัญชาของผู้ปกครอง นี่คือกระบี่แห่ง

เจ้าครองเมือง กษัตริย์ตรัสถามในทันใดว่าและกระบี่สามานย์ เป็นอย่างไร ? กระบี่สามานย์หรือ? เป็นกระบี่ของนักดาบผมเผ้ากระเซิงหนวดเคราชี้ชัน สวมหมวกห้อยลงต่ำ ผูกด้วยเชือกหยาบ ๆ เสื้อที่มีด้านหลังตัดสั้น จ้องมองอย่างดุดัน และเอ่ยคำพูดคำจาอย่างยากเย็นเหลือแสน พวกเขาได้ฟาดฟันประหัตประหารอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์.....ณ. เบื้องบน มันได้บั่นศีรษะและคอณ เบื้องล่าง ก็ได้เชือดเฉือนตับและปอด ผู้ซึ่งได้กวัดแกว่งกระบี่สามานย์นี้ ไม่ผิดอะไรจากไก่ชน ที่อาจถูกเด็ดชีวิตใน ทุก ๆ รุ่งเช้า คนเหล่านี้ ไร้ประโยชน์ใด ๆในการปกครองแผ่นดินบัดนี้พระองค์ครองฐานะสูงส่งถึงโอรสสวรรค์ พระองค์ยังคงลุ่มหลงในกระบี่สามานย์ ช่างน่าละอายโดยแท้ ! นับแต่นั้นมา จ้าวหวังก็ทรงไม่ดำเนินออกจากพระตำหนัก ปรากฏพระวรกายขึ้นเลย เป็นเวลาถึงสามเดือน และเหล่านักดาบต่างก็ได้อัตวินิบาตกรรมในที่รับรองของตน Sword

manager online
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น