วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2565

ท่าน้ำนนท์








































ท่าน้ำนนท์ในปัจจุบันถ่ายภาพวันสิ้นปี 2564( 30 ธันวาคม 2564)และคณะที่ Omicron กำลังระบาดโดยทั่วไปยังเงียบเหงาอยู่ถนนโล่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอนาคตประชากรโลก
ไม่รู้จะเป็นอย่างเพราะภัยธรรมชาติยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง






วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565

Bangkok China night

 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วยังไม่มีไวรัสระบาดเหมือนอย่างทุกวันผู้คนอยู่สงบและมีความสุขตามอัตภาพ ผิดกับปัจจุบันผู้คนต่างกลัวภัยต่าง ๆ ภัยธรรมชาติโรคระบาด อากาศแปรปรวน

DSCF0410
DSCF0409
DSCF0400
DSCF0399
DSCF0398
DSCF0296
DSCF0337
DSCF0367
DSCF0328
DSCF0316

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ข้ออ้างของคนอ่อนแอ











25 ตุลาคม2017 - 2560 เกือบถึงครึ่งทางของเทศกาลกิน เจประจำปี 2017 - 2560 ในระหว่างนี้ฝนก็ตกทุกวันเหมือนกันฝนเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติ(ธรรม)หรือไม่คำตอบคือไม่เลยถ้าใจเราเข้มแข็งไม่มีข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ฝนตก เดินทางระยะไกล แดดร้อน ฯลฯ เป็นข้ออ้างของคนอ่อนแอ อนึ่ง...คนที่อ่อนแอมักบ่นว่า ร้อนนัก หนาวนัก หิวนัก ยังเช้าอยู่ รอประเดี๋ยว นี่คือ ข้ออ้างของคน ย่อหย่อน - อ่อนแอ
มรรรค หมายถึง ทางซึ่งเป็นคำกลางที่หมายถึงทางที่ดำเนินไปส่วน คำว่า มิจฉา

หมายถึง สิ่งที่ผิด เมื่อเป็น(มิจฉามรรค)จึงหมายถึง ทางที่ผิด หนทางที่ผิดหมายถึง

ข้อปฏิบัติที่ไม่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ เป็นไปด้วยอกุศลจิตซึ่งพระพุทธเจ้า

แสดงเปรียบเทียบกับสัมมามรรคโดยนัยของพระสูตร คือ มิจฉามรรค ๘ ได้แก่....

๑. มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นที่ผิด

๒. มิจฉาสังกัปปะ ความคิดผิด

๓. มิจฉาวาจา วาจาผิด

๔. มิจฉากัมมันตะ การกระทางกายที่ผิด

๕. มิจฉาอาชีวะ อาชพีที่ผิด

๖. มิจฉาวายามะ ความเพียรผิด

๗. มิจฉาสติ ความระลึกผิด

๘. มิจฉาสมาธิ ความตั้งมั่นผิด

โพธิสัตว์จากพื้นโลกด้วยจิตใจที่ไม่มีอะไรมาทำลายได้ยังคงทำต่อเนื่องไปจนถึงที่สุดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นในขณะเดียวกันก็ท้าทายเอาชนะความทุกข์ส่วนตัวของเขาเองชีวิตอันสูงส่งที่ดำเนินชีวิตโดยบรรลุปณิธานของเขาจะประดับประดาด้วยแสงแห่งความสุขอันรุ่งโรจน์

นรชน เหล่าใด ทำตามโอวาทอันพระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว นรชนเหล่านั้นจักถึง ฝั่งแห่งความสวัสดี(พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก วลาหกัสสชาดก)

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ร่ำรวยหรือยากจน

1aEdt.jpg

เพิ่มคำบรรยายภาพ




วันนี้ 28 มิถุนายน 2562 เวลาผ่านไป 2 เดือนคิดถึงเหล่าสามเณรปลูกปัญญาธรรมปีที่ ๘ เคยนั่งดูทุกวันเป็นเวลา 1 เดือนตอนนี้มันรู้สึกขาด ๆ หาย ๆป่านนี้คงใช้ชีวิตตามปกติตามประสาเด็ก ๆ แล้วน่ะอดีตลูกสามเณรทั้ง ๘ รูป

ถ่ายภาพโดย...

ระหว่างร่ำรวย แต่ไม่อบอุ่นกับอบอุ่นแต่ไม่ร่ำรวย ลูกจะเลือกทางไหน ?

มีคนส่วนหนึ่ง ต้องเชิดคอทำหน้าชื่นอยู่ในสังคม มีเวลาไว้คอยเอาอกเอาใจคนอื่น มากกว่าครอบครัวของตัวเอง หรือต้องดิ้นรนคอยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้เวลาแก่ผลประโยชน์ มากกว่าครอบครัว หรือต้องคอยประจบสอพลอคนอื่นเพื่อผลประโยชน์นั้น มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดที่ทำแบบนั้นได้โดยลืมนึกไปว่าเพราะความฉลาดนั้นแหล่ะ ทำให้ตัวเองกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่น ต้องคอยพินอบพิเทาคนอื่นเกินความจำเป็น

ลูกเอ๋ย..! ! คนที่นอนไม่หลับเพราะคิดมากเรื่องงาน เรื่องธุรกิจนั้น ล้วนเป็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดทั้งนั้นแหล่ะ คนที่ยอมตัวเป็นคนโง่หรือเป็นคนโง่จริง ๆ นั้น หัวถึงหมอนเมื่อไหร่ หลับยาวได้ตลอดทั้ง
คืนยอมเป็นคนโง่เสียบ้าง ก็ดีเหมือนกันนะลูก



วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562

พฤติกรรมในการกินอาหาร



ผมมักจะเปรย ๆ อยู่เสมอว่าเรางดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์กันบ้างเถอะจริง ๆ แล้วอาหารมีมากมายให้เราเลือกรับทานแต่ว่าการงดเว้นเบียดเบียนชีวิตสัตว์ก็ถือว่าเราได้ทำทานอย่างหนึ่งถ้าเราตามใจปากติดในรสชาติ ของอาหารมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพเหมือนกัน อันนี้นา ๆ จิตตังน่ะครับโรคที่เกิดจากการรับประทานแบบไม่บันยะ - บันยัง ก็คือ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเก๊า โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและโรคอื่น ๆ จะตามติดมาด้วย เพราะฉะนั้นอย่าตามใจปาก อย่าตามใจตนเองบางอย่างเราต้องฝืนมันบ้างเราเกิดมาจะกินเพื่ออยู่หรือจะอยู่เพื่อกินกินน้อยแต่อยู่นาน ถ้าไม่เชื่อลองไปดูตามโรงพยาบาลดูสิปัจจุบันนี้โรคแปลก ๆ มีมากขึ้นทุกที ๆ ก็เป็นโรคอันเนื่องจากพฤติกรรมการกินทั้งนั้นโดยเฉพาะอาหารประเภท Fast Food

พระผู้มีพระภาค ฯ ทรงเสวยเนื้อ เพราะว่า กลิ่นดิบไม่ใช่กลิ่นเนื้อกลิ่นปลาแต่กลิ่นดิบเป็นกลิ่นของกิเลสขณะนี้ทุกคนไม่ได้กลิ่นกิเลสเลย คือไม่รู้ว่า กิเลสเป็นสภาพธรรมที่น่ารังเกียจ ทุกคนเพียงแต่ได้กลิ่นเนื้อดิบกลิ่นปลาดิบ เท่านั้นแต่พระผู้มีพระภาค ฯ ทรงแสดงว่า กลิ่นดิบ คือ กิเลส ฉะนั้น ผู้ที่บริโภคอาหารเนื้อโดยอบรมเจริญปัญญาดับกิเลสเป็น สมุจเฉท เช่น พระผู้มีพระภาค ฯ และพระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่มีกิเลส ไม่มีกลิ่นดิบ

ฉะนั้น ควรรังเกียจกลิ่นกิเลส ไม่ใช่รังเกียจกลิ่นของเนื้อสัตว์ ถ้าถามว่าการรับประทานอาหาร มังสวิรัติ และการกินเจนั้นจำเป็นแค่ไหนก็ย่อมแล้วแต่บุคคล บางท่านบริโภคแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก็พอใจที่จะบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของร่างกายแต่ต้องพิจารณากิเลสในขณะที่กำลังกินเจ หรืออาหารมังสวิรัติว่ารู้สึกติดพอใจในรสอร่อยไหม ? ความติดความพอใจนั่นแหละเป็นกลิ่นดิบแล้ว ฉะนั้นจึงต้อพิจารณาธรรมะโดยละเอียดจริง ๆ ไม่ใช่พิจารณาเพียงอาการที่ปรากฏภายนอกเท่านั้น และถามว่าถ้าไม่กินเจจะทำให้ศีลบริสุทธิ์ได้หรือไม่นั้นตอบว่าได้ เมื่อพิจารณาจิต และสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพื่อรู้ชัดในสภาพธรรมะทั้งหลายตามความเป็นจริง

บุคคลใด หยุดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และงดเว้นเสียจากการเสพเลือดเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังชี้นำส่งเสริมให้หมู่ชนทั้งหลายหยุดฆ่า หยุดเสพชีวิตเลือดเนื้อผู้อื่น บุคคลผู้นั้นย่อมห่างไกลจากอกุศลมูลทั้งปวงและบริบูรณ์พร้อมด้วยอานิสงส์อานิสงส์ทั้ง ๑๐ ประการ ได้แก่.....

๑. เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
๒. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
๓. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
๔. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
๕. มีอายุมั่นขวัญยืน
๖. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด
๗. ยามหลับนิมิตรเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นศิริมงคล
๘. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
๙. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
๑๐. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมู่งสู่คติภพ